ตามรอย! คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ สู่ตำนาน “ผีอีเม้ย” ผีละครไทยที่มีจริงในประวัติศาสตร์ (EP.จบ)
แต่ภายหลังไม่นาน จากเหตุการณ์กบฏเงี้ยวที่เกิดขึ้นมานั้น คุ้มเจ้าหลวงมีการเปลี่ยนมือผู้ดูแลไปหลายหน่วยงาน ทำให้พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ภายในคุ้ม ว่ามีการพบผ้าไหมอยู่ผืนหนึ่งที่ยังทอไม่เสร็จ ภายหลังทราบว่าคือผ้าไหมที่แม่เจ้าบัวไหล ทอเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ยังไม่แล้วเสร็จก็เกิดกบฏเงี้ยวเสียก่อน ซึ่งหลังจากแม่เจ้าบัวไหล ถูกควบคุมตัวไปอยู่ที่กรุงเทพนั้น ในบั้นปลายของชีวิตก็ได้รับพระบรมราชานุญาตให้กลับคืนบ้านเมืองได้ โดยแม่เจ้าบัวไหลได้กลับไปประทับกับราชธิดาองค์เล็กและบุตรเขย ที่จวนข้าหลวงจังหวัดเชียงราย และได้พิราลัยที่นั่นเมื่อปี พ.ศ. 2475 สิริชนมายุได้ 85 ปี ซึ่งผ้าไหมที่ยังทอไม่เสร็จผืนนั้น ก็ยังถูกเก็บอยู่ใน คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ จนถึงปัจจุบัน
สำหรับสถานที่ของคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้ ปัจจุบันก็ไม่ได้ทิ้งร้างแต่อย่างไร เพราะตอนนี้ก็ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ และครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อคราวที่เสด็จมาเยี่ยมเยียนราษฎรจังหวัดแพร่ และครั้งหนึ่งได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เป็นสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบัน และสาธารณะในปี 2540
และในส่วนตำนาน “ผีอีเม้ย” ที่เป็นตัวละคร ที่เข้ามามีบทบาทภายในละครดังเรื่องรอยไหม โดยที่ถ้าหากใคร ที่ก่อนหน้านี้ได้เคยศึกษาประวัติคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้มาอย่างดี จะทราบว่าไปคล้ายคลึงกับเรื่องราวของ “ผีอีตู่” ข้าในคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ที่มีความรักต่อเจ้านายยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง โดยมีเรื่องเล่าว่า ในเหตุการณ์กบฏเงี้ยว อีตูโกรธแค้นแทนเจ้านายที่ถูกควบคุมความเป็นอยู่จากข้าหลวงบางคน จึงตัดสินใจหนีออกไปฆ่าลูกของนายอำเภอจนเสียชีวิต และถูกจับได้จนโดนโทษเฆี่ยนตีตัดหัวเสียบประจานกลางประตูเมือง ตำนานเล่ากลายเป็นผีวิญญาณที่รอรับใช้ และการกลับมาขอเจ้านายสุดที่รักที่คุ้มหลวงแห่งนี้ ทั้งนี้ละครเรื่องรอยไหม ในฉากที่อีเม้ยถูกเฆี่ยนตีจนตาย ก็ถูกถ่ายทำในคุ้มหลวงแห่งนี้
ที่มา sanook
รวมเรื่องเล่าผีจากทั่วทุกมุมโลกไว้ที่นี้แล้ว ghost-time